การต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ผ่าน DLT eLearning เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการอัพเดตใบขับขี่ของคุณ โดยคุณสามารถทำการอบรมและต่ออายุใบขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายผ่านระบบออนไลน์นี้ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่อบรมแบบดั้งเดิม
ผู้ขอต่ออายุสามารถทำการสอบออนไลน์ได้ตามความสะดวก เพื่อยืนยันว่ามีความรู้และความเข้าใจในกฎหมายและการขับขี่อย่างเหมาะสม เมื่อผ่านการสอบและได้รับใบผ่านการตรวจสอบแล้ว สามารถชำระเงินอายุใบขับขี่ได้ผ่านทางออนไลน์โดยตรง ทำให้การต่ออายุใบขับขี่เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมากขึ้นสำหรับประชาชน
อบรมต่ออายุใบ ต่อใบขับขี่ออนไลน์ คืออะไร
อบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์คือการเรียนรู้และทำข้อสอบเพื่อต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งนักขับขี่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่อบรมแบบดั้งเดิม การอบรมและทำข้อสอบออนไลน์นั้นมักจะมีความสะดวกสบายและเร็วกว่าการเข้าร่วมอบรมแบบดั้งเดิมในสถานที่กับผู้สอนในที่ต่าง ๆ การอบรมและทำข้อสอบออนไลน์
ใบอนุญาตที่สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้
ใบอนุญาตที่สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้นั้นสามารถอบรมได้ทั้งผู้ที่ไม่เคยมีใบขับขี่และผู้ที่ขาดการต่ออายุตั้งแต่ 1-3 ปีได้
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ)
- ใบอนุญาตขับรถขนส่ง (ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถส่วนบุคคลชนิดที่ 1-4, ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทุกประเภทชนิดที่ 1-4)
- ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ)
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลที่ขาดต่ออายุเกิน 1 ปีขึ้นไป (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ)
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวที่สิ้นอายุเกิน 3 ปี (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ)
วิธีเตรียมตัวเข้าอบรมผ่าน dlt elearning อบรมต่ออายุใบ ต่อใบขับขี่ออนไลน์
วิธีการเตรียมตัวเพื่อเข้าอบรมใบขับขี่ออนไลน์ dlt elearning จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ดังนี้
เตรียมเข้าลิงค์อบรมใบขับขี่ออนไลน์
เตรียมอุปกรณ์เข้าลิงค์อบรมใบขับขี่ออนไลน์โดยการเลือกอุปกรณ์ที่จะใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ และตรวจสอบสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไวไฟให้พร้อมเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของ DLT eLearning ซึ่งเป็นระบบการอบรมของกรมการขนส่งทางบกที่ต้องการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลโดยตรง
เตรียมข้อมูลเพื่อสมัครใบขับขี่
เตรียมข้อมูลสำหรับการสมัครอบรมใบขับขี่โดยต้องมีข้อมูลเช่น หมายเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และวันเดือนปีเกิด เพื่อกรอกในเว็บไซต์สำหรับลงทะเบียนอบรมใบขับขี่ออนไลน์
เตรียมเวลาฟังการอบรมใบขับขี่
เลือกเวลาที่สะดวกในการฟังการอบรมใบขับขี่ออนไลน์โดยควรเลือกวันและเวลาที่ไม่มีเร่งด่วน เนื่องจากการอบรมนั้นจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงสำหรับใบขับขี่รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ที่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี และประมาณ 5 ชั่วโมงสำหรับอบรมใบขับขี่ใหม่ ส่วนใบขับขี่ที่หมดอายุเกิน 1 ปีหรือต้องต่อใบอนุญาตขับรถขนส่ง จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนใบขับขี่สาธารณะออนไลน์จะใช้เวลาอบรมประมาณ 3 ชั่วโมง
ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ผ่าน DLT-elearning
ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ผ่าน DLT-elearning สามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่านมือถือ โดยมีขั้นตอนการทำดังนี้
1. เข้าสู่ระบบ www.dlt-elearning.com
เมื่อต้องการอบรมใบขับขี่ออนไลน์สำหรับผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมอบรมออนไลน์มาก่อน ขั้นตอนแรกคือเข้าสู่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เพื่อลงทะเบียนเข้ารับการอบรมสำหรับต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ โดยลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการอบรมและเริ่มการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ แต่สำหรับผู้ที่เคยเข้าร่วมอบรมแล้วสามารถข้ามไปที่ขั้นตอนที่ 3 ได้เลย
2. ลงทะเบียนอบรมใบขับขี่
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทะเบียนอบรมใบขับขี่ออนไลน์ กรุณากรอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณให้ถูกต้องและตรงตามความเป็นจริง เช่น เลขบัตรประชาชน, เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้, อีเมล์ที่ใช้งานได้ และวันเดือนปีเกิด (พ.ศ.) เพื่อความสะดวกในการใช้งานในอนาคต หลังจากนั้น กดปุ่ม “ดำเนินการต่อ” และรับทราบเงื่อนไขการลงทะเบียน กด “ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข” ตามด้วยการกด “ยืนยัน” เพื่อรับรหัส OTP สำหรับการอบรมใบขับขี่ผ่านระบบ e-Learning
3. เข้าระบบอบรมใบอนุญาตขับรถ
เข้าสู่ระบบโดยใช้เลขบัตรประชาชนและวันเดือนปีเกิดโดยระบุในรูปแบบของปี พ.ศ. ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้อบรมเกิดวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2535 ค่าข้อมูลวันเดือนปีเกิดที่ต้องใช้คือ 25092535
4. เลือกประเภทอบรมใบขับขี่ออนไลน์
เลือกคลาสการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ภายใต้หมวด “อบรมต่ออายุใบอนุญาต” และกด “สมัครอบรม” โดยผู้ที่ต้องการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ จะต้องเลือกประเภทการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ตามประเภทของใบอนุญาตขับรถที่ต้องการต่ออายุ จากหมวดหมู่ของคลาสการอบรมใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 ประเภท
5. อบรมใบขับขี่ออนไลน์
เข้าสู่หลักสูตรที่สมัครอบรมใบขับขี่ จากนั้นกด “ดำเนินการต่อ” เพื่อเริ่มต้นการอบรมและก่อนที่จะเข้าอบรม จะมีแบบทดสอบก่อนให้ทำทั้งหมด 3 ข้อ เพื่อทดสอบความรู้พื้นฐานก่อนเริ่มการอบรม โดยผู้เข้าอบรมสามารถตอบผิดได้ และอบรมใบขับขี่ออนไลน์และดูวีดีโออบรมใบขับขี่ จะต้องรอให้เสร็จสิ้น และไม่สามารถปิดหน้าต่างหรือข้ามได้ แนะนำให้ตั้งใจฟังเพราะเมื่อวีดีโอจบจะมีคำถามให้ตอบ ผู้เข้าอบรมจะต้องตอบคำถามให้ถูกต้องเพื่อให้สามารถเสร็จสิ้นขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้
6. ทำแบบทดสอบและบันทึกหลักฐานผ่านการ อบรมใบขับขี่ออนไลน์
หลังจากเสร็จสิ้นการอบรมออนไลน์ใบขับขี่ จะต้องทำแบบสอบถามที่ปรากฎขึ้นหลังการอบรมทั้ง 3 ข้อ เพื่อวัดความรู้และความสามารถที่ได้รับในระหว่างการอบรมออนไลน์ใบขับขี่ ในขั้นตอนนี้จะต้องตอบคำถามให้ถูกต้อง ไม่สามารถตอบผิดแบบคำถามก่อนรับการอบรมได้ และเมื่อผ่านการอบรมครบชั่วโมงพร้อมทำแบบสอบถาม ผู้เข้าอบรมจำเป็นต้องบันทึกหลักฐานจากเว็บไซต์ โดยเข้าไปที่เมนู “หลักฐานการอบรม” จะพบหน้าจอพร้อม QR Code ซึ่งเป็นหลักฐานการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ผู้อบรมสามารถกดปุ่ม “บันทึก” หรือหากไม่สามารถดาวน์โหลดหลักฐานการอบรมใบขับขี่ได้ สามารถแคปหน้าจอเพื่อเก็บหลักฐานและนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งต่อไปได้
รถแต่ละประเภทใช้เวลาอบรมผ่าน dlt elearning นานแค่ไหน
เมื่อต้องการต่อใบขับขี่จำเป็นต้องอบรมผ่าน dlt elearning ก่อน ซึ่งรถแต่ละประเภทก็จะใช้เวลาในการอบรมต่างกัน ดังนี้
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลใช้เวลาอบรมใบขับขี่ออนไลน์ 1 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถขนส่งใช้เวลาอบรมใบขับขี่ออนไลน์ 2 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถสาธารณะใช้เวลาอบรมใบขับขี่ออนไลน์ 3 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลที่ขาดต่ออายุเกิน 1 ปีขึ้นไป ใช้เวลาอบรมใบขับขี่ออนไลน์ 2 ชั่วโมง พร้อมสอบข้อเขียน
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวที่สิ้นอายุเกิน 3 ปี ใช้เวลาอบรมใบขับขี่ออนไลน์ 2 ชั่วโมง พร้อมสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ
- กรณีทำใบขับขี่ใหม่สำหรับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลจะใช้เวลาอบรม 5 ชั่วโมงที่สำนักงานขนส่ง พร้อมสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ
สรุป
การต่อใบขับขี่ผ่านออนไลน์ เป็นกระบวนการที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถขอใบขับขี่ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบนอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องเข้าไปที่สำนักงานของหน่วยงานจราจร ผู้ขับขี่สามารถกรอกรายละเอียดข้อมูลและอัพโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านระบบออนไลน์ หลักฐานการจัดสรรที่จำเป็นอาจรวมถึงรูปถ่ายหน้าตรง หรือเอกสารประกอบการศึกษา เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น ใบขับขี่จะถูกส่งตรงไปยังที่อยู่ที่ระบุโดยผู้ขับขี่ในระบบ ทำให้การขอใบขับขี่มีความสะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้นสำหรับผู้ขับขี่ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน