ถ้ามีการจำหน่ายรถยนต์ และต้องการยกกรรมสิทธิ์ให้กับคนซื้อต้องมีการโอนรถยนต์ไปให้คนซื้อ จึงจะนับว่าการค้าขายนั้นสิ้นสุดลง แต่ว่าการโอนรถยนต์ก็มีขั้นตอนเอกสารโอนรถยนต์ เช่นเดียวกับวิธีการทำธุรกรรมทางการอื่นๆด้วยเหมือนกัน เพื่อความสะดวกและรวดเร็วทันใจ เพื่อนแท้นขอนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ดังนี้
เอกสารที่ใช้ในการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
สำหรับเอกสารโอนรถยนต์แบบโอนลอยสามารถแบ่งออกเป็น 4 แบบด้วยกันก็คือ
1. รถจดเป็นชื่อบุคคลธรรมดาและไม่ติดไฟแนนซ์
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมเซ็นรับประกันสำเนาถูกต้องพร้อมเซ็นกำกับว่า “ใช้เพื่อทำงานเกี่ยวกับรถยนต์เลขทะเบียน…..เท่านั้น และถ้าผู้ครอบครองรถยนต์มีการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสกุล ที่ไม่ตรงกับในสมุดคู่มือลงบัญชีก็ให้แนบใบเปลี่ยนแปลงชื่อรวมมาด้วย
- แบบคำร้องขอการโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ โดยให้ผู้ครอบครองรถยนต์เดิมหรือคนขายเซ็นตรงช่องผู้โอน
- ใบมอบฉันทะเอกสารโอนรถยนต์ให้คนขายเซ็นตรงผู้มอบฉันทะ และควรจะเขียนกำกับเอาไว้เหมือนกับสำหรับการเซ็นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- เล่มรถยนต์หรือสมุดคู่มือขึ้นทะเบียนที่เป็นเล่มสีน้ำเงินให้ผู้ครอบครองรถยนต์หรือคนขายเซ็นในช่องผู้ครอบครอง
- สัญญาซื้อขายจำเป็นต้องใช้เป็นแบบที่มีฉบับสำเนาด้วย เนื่องด้วยคนซื้อแล้วก็คนขายจำเป็นต้องเก็บเอาไว้คนละชุด
2. รถจดเป็นชื่อบุคคลธรรมดาและติดไฟแนนซ์
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนโดยให้เซ็นกำกับเช่นเดียวกับรถยนต์ที่ไม่ติดไฟแนนซ์
- สำเนาทะเบียนบ้านเซ็นสำเนาถูกต้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
- แบบคำร้องขอโอน
- หนังสือมอบฉันทะเอกสารโอนรถยนต์ให้เซ็นเหมือนกับในเอกสารของรถยนต์ที่ไม่ติดไฟแนนซ์
- ในส่วนของสมุดคู่มือลงบัญชีจะยังอยู่ที่ไฟแนนซ์คนขายจำเป็นที่จะต้องไปปิดยอดค่าผ่อนส่งรถยนต์กับไฟแนนซ์ก่อน โดยส่วนมากก็จะใช้เงินที่ขายรถยนต์ได้จากผู้บริโภคไปปิดยอดกับทางไฟแนนซ์ แล้วทางไฟแนนซ์ก็จะไปดำเนินการโอนให้กับผู้ครอบครองรถยนต์
- สัญญาซื้อขายใช้แบบที่มีฉบับสำเนา โดยให้ผู้ซื้อและผู้ขายเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานคนละชุด
3. รถจดเป็นชื่อนิติบุคคลและไม่ติดไฟแนนซ์
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจเซ็นชื่อของบริษัทพร้อมเซ็นรับประกันสำเนาถูกต้องพร้อมเซ็นกำกับเอาไว้ด้วยว่า”ใช้เพื่อปฏิบัติการเกี่ยวกับรถยนต์เลขทะเบียน…..เท่านั้น”
- แบบคำร้องขอเอกสารโอนรถ บริษัทโดยให้ผู้มีอำนาจเซ็นชื่อของบริษัทเซ็นตรงผู้โอนพร้อมประทับตราบริษัท
- หนังสือมอบฉันทะเอกสารโอนรถยนต์ให้ผู้มีอำนาจลงชื่อของบริษัทเซ็นตรงผู้มอบฉันทะพร้อมประทับตราบริษัท พร้อมเขียนกำกับเพื่อเจาะจงวัตถุประสงค์สำหรับการมอบอำนาจให้เหมือนที่เขียนในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สมุดคู่มือลงทะเบียนโดยให้ผู้มีอำนาจเซ็นชื่อของบริษัทเซ็นในช่องผู้ครอบครองพร้อมประทับตราบริษัท
- สำเนาหนังสือลงบัญชีบริษัทพร้อมเซ็นยืนยันสำเนาถูกต้องและประทับตราบริษัททุกหน้า
- สัญญาซื้อขาย
4. รถจดเป็นชื่อนิติบุคคลและติดไฟแนนซ์
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจเซ็นชื่อของบริษัทพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจลงชื่อของบริษัทพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
- แบบคำร้องขอโอนโดยให้ผู้มีอำนาจลงชื่อของบริษัทเซ็นตรงผู้โอนพร้อมประทับตราบริษัท 1 ใบ และ อีก 1 ใบก็ให้ผู้มีอำนาจเซ็นชื่อของบริษัทเซ็นตรงคนรับโอน 2 ที่ พร้อมประทับตราบริษัทโดยจะต้องประทับตราบริษัททั้ง 2 จุดตรงที่ลงชื่อ
- หนังสือมอบฉันทะเอกสารโอนรถยนต์โดยให้ผู้มีอำนาจลงชื่อของบริษัทเซ็นตรงผู้มอบฉันทะพร้อมประทับตราบริษัท พร้อมกับเขียนกำกับเอาไว้เหมือนในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำหรับสมุดคู่มือขึ้นทะเบียนก็จะยังอยู่ที่ไฟแนนซ์ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยจำต้องไปปิดยอดค่าผ่อนส่งรถยนต์กับทางไฟแนนซ์ให้เรียบร้อยซะก่อน หลังจากนั้นทางไฟแนนซ์ก็จะดำเนินการโอนรถยนต์ให้กับทางบริษัท เมื่อได้เล่มมาและให้ผู้มีอำนาจลงชื่อของบริษัทเซ็นตรงผู้ครอบครองพร้อมประทับตราบริษัท แล้วจึงเอาไปให้คนซื้ออีกครั้งหนึ่ง
- สำเนาหนังสือขึ้นทะเบียนบริษัทพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกรวมทั้งประทับตราบริษัททุกหน้า
- สัญญาซื้อขาย
วิธีการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
1. การโอนกรรมสิทธิ์รถโดยตรง
- การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์โดยตรง จะเป็นการโอนรถยนต์จากชื่อผู้ครอบครองคนเดิมไปเป็นชื่อผู้ครอบครองคนใหม่ที่ซื้อรถยนต์ ซึ่งควรต้องเข้าไปยื่นเรื่องเอกสารโอนรถยนต์แจ้งต่อนายทะเบียนที่ที่ทำการขนส่งจังหวัดหรือที่ทำการขนส่งจังหวัดสาขาที่ผู้โอนมีที่อยู่ปรากฎในใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ หรือที่ขอแจ้งใช้รถยนต์ไว้
- โดยรถยนต์ที่จะนำไปโอนกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องมีสภาพที่ตรงตามคู่มือเล่มที่ลงบัญชี ซึ่งถ้าหากว่าผู้ครอบครองรถยนต์มีการเปลี่ยนภาวะรถยนต์ที่แตกต่างออกไปจากเดิม ก็ต้องให้รายละเอียดในเล่มคู่มือรวมทั้งขึ้นทะเบียนให้เป็นระเบียบเรียบร้อยทั้งหมด แต่ถ้าหากลืมให้รายละเอียดเอาไว้ก็ยังสามารถนำเอกสารโอนรถยนต์มาดำเนินการในวันที่นัดหมายมาโอนรถยนต์ได้ด้วยเหมือนกัน
2. การโอนลอย
- การโอนลอย คือ การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ว่าจะเป็นคนขายหรือคนซื้อไม่สามารถที่จะไปกระทำการโอนกรรมสิทธิ์ซึ่งๆหน้านายทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกพร้อมกันได้ ก็เลยเรียกว่าการโอนลอย โดยกระบวนการโอนลอยก็คือ คนขายต้องเซ็นเอกสารการโอนรถยนต์ โอนลอยให้เรียบร้อย แล้วก็ค่อยนำเอกสารโอนรถยนต์ไปให้กับคนซื้อเป็นผู้ดำเนินงานต่อเองทั้งหมดทั้งปวง
- การโอนลอยโดยมากจะเห็นได้มากจากแนวทางการขายกับเต็นท์รถยนต์มือสอง โดยคนขายจะกระทำการเซ็นเอกสารโอนรถยนต์แบบลอยเอาไว้ก่อน แต่ว่าก็มีการเสี่ยงอยู่เช่นเดียวกันถ้าอยู่ในระหว่างการโอนกรรมสิทธิ์แต่ว่ายังไม่เสร็จสิ้น แล้วผู้ซื้อนำรถยนต์ไปใช้แล้วเกิดอุบัติเหตุหรือใช้ละเมิดกฎหมาย คนที่จะต้องโดนตรวจตราคนแรกก็คือผู้ครอบครองรถยนต์หรือผู้ครอบครองรถยนต์คนท้ายที่สุดนั่นเองครับ
ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
- นำรถยนต์เข้ารับการตรวจสอบที่งานตรวจสภาพรถยนต์ (นอกจากกรณีโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ตามรายการขึ้นทะเบียน ไม่ต้องตรวจตรารถยนต์)
- ยื่นเอกสารโอนรถยนต์เรื่องโอนกรรมสิทธิ์และจ่ายค่าธรรมเนียม ที่งานทะเบียนรถยนต์
- รับใบคู่มือลงบัญชีรถยนต์คืน
- รับใบเสร็จรับเงิน ใบคู่มือลงทะเบียนรถยนต์ สัญลักษณ์การเสียภาษีอากร รวมทั้งแผ่นป้าย ทะเบียนรถยนต์
หมายเหตุ : การโอนกรรมสิทธิ์รถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแต่วันโอน (หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด มีปรับไม่เกิน 2,000 บาท)
ค่าธรรมเนียมในการโอนรถ
- ค่าอากรแสตมป์โอนรถยนต์ ราคาร้อยละ 0.5 ของราคาประเมิน (ตัวอย่างเช่น ราคาประเมิน 200,000 บาท ค่าอากรแสตมป์เท่ากับ 1,000 บาท)
- ค่าธรรมเนียมการโอนเอกสารโอนรถยนต์ 100 บาท
- ค่าเปลี่ยนป้ายทะเบียน200 บาท (กรณีหากต้องการเปลี่ยน)
- กรณีเล่มทะเบียนชำรุดทรุดโทรมเสียค่าเปลี่ยน100 บาท
- ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพรถยนต์50 บาท
- ค่าคำร้องขอ 5 บาท
สถานที่ติดต่อโอนรถ
โอนรถยนต์ ที่ไหน สามารถเตรียมเอกสารโอนรถยนต์ ไปโอนรถได้ที่ทำการขนส่งจังหวัดหรือที่ทำการขนส่งจังหวัดสาขาที่ผู้โอนมีที่อยู่ปรากฎในใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์หรือที่ขอแจ้งใช้รถยนต์ไว้
ผลของประกันภัยรถยนต์หลังโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
สำหรับในส่วนของประกันภัยรถยนต์ที่ผู้ครอบครองรถยนต์คนเก่าได้ทำเอกสารโอนรถยนต์เอาไว้ และประกันยังไม่หมดอายุความคุ้มครองป้องกันก็จะยังคงส่งผลดำเนินต่อไปจนกระทั่งวันหมดกรมธรรม์ ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนผู้ครอบครองรถยนต์เป็นชื่อใหม่แล้วก็ตาม
เมื่อถึงกำหนดประกันที่มีอยู่ในข้อตกลงเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ครอบครองรถยนต์คนใหม่ก็สามารถเปลี่ยนประกันได้ในทันที แต่ผู้ครอบครองรถยนต์คนเก่าจำเป็นจะต้องแจ้งให้บริษัทประกันรถรู้ด้วยว่าได้มีการโยกย้ายเจ้าของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อบริษัทประกันเปลี่ยนชื่อให้กรมธรรม์ให้ถูกตามผู้ครอบครองรถยนต์คนปัจจุบันนี้
สรุป - เอกสารโอนรถยนต์
หากมีการซื้อขายรถยนต์กันเกิดขึ้นสิ่งแรกที่ต้องรีบทำเลยก็คือเอกสารโอนรถยนต์ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะโอนโดยตรงหรือโอนลอยก็ได้เช่นกัน เพื่อให้เกิดความถูกต้องและถูกกฎหมายจะได้สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายและไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลังครับ