เมื่อเริ่มต้นการอบรมใบขับขี่ สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือการเตรียมความพร้อมทั้งทางกายและสมองเพื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด การดูแลสุขภาพและปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมจะช่วยให้คุณมีสมรรถนะในการขับขี่อย่างปลอดภัยมากขึ้น
เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการอบรม คุณควรหาทรัพยากรการเรียนรู้เกี่ยวกับกฎของท้องถนนและสัญญาณเตือนทาง ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้องในการขับขี่ การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบเสริมความปลอดภัยในรถยนต์เป็นส่วนสำคัญเช่นกันใบบทความนี้จะบอกถึงวิธีการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ และสิ่งที่เตรียมไว้ต่อใบขับขับขี่
วิธีอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์
การอบรมออนไลน์เพื่อขับขี่หรือต่อใบขับขี่ออนไลน์เป็นวิธีที่สะดวกและยืดหยุ่นที่ช่วยให้คุณสามารถศึกษาและเรียนรู้ได้ในเวลาที่สะดวกตามความสะดวกของคุณ เมื่อทำการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์เสร็จสิ้นแล้ว คุณยังสามารถทำการสอบและได้รับใบอนุญาตใบขับขี่ใหม่ได้โดยตรงผ่านระบบออนไลน์อีกด้วย การอบรมออนไลน์ยังช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังสถานที่อบรมด้วย
- เข้าเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com จากนั้น
- คลิกที่ด้านล่างของหน้าเพื่อไปที่หน้า “ลงทะเบียน”
- กรอกข้อมูลส่วนตัวของคุณให้ครบถ้วน และกดปุ่ม “ยืนยัน”
- เมื่อเสร็จสิ้น หลังจากนั้นเลือกอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2567 ตามใบอนุญาตขับรถที่คุณต้องการต่ออายุ
- โดยคลิกที่หัวข้อแรกที่อยู่ในส่วนของ “แบบทดสอบก่อนอบรม”
- ทำคำถามและแบบทดสอบก่อนการอบรมให้ครบทุกข้อ
- รับชมวีดีโอการอบรมการขับรถจนจบ ตอบคำถาม และแบบทดสอบ
- หลังจากอบรม สุดท้าย บันทึกหน้าจอผลการอบรมเพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์กับพนักงานขนส่ง
อบรมต่อใบขับขี่กี่ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล: อบรมต่อใบขับขี่ 1 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถขนส่ง: อบรมต่อใบขับขี่ 2 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ: อบรมต่อใบขับขี่ 3 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลที่หมดอายุเกิน 1 ปี: อบรมต่อใบขับขี่ 2 ชั่วโมง (พร้อมสอบข้อเขียน)
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวที่หมดอายุเกิน 3 ปี: อบรมต่อใบขับขี่ 2 ชั่วโมง (พร้อมสอบข้อเขียนและสอบปฎิบัติ)
คุณสมบัติผู้ขอใบขับขี่
ผู้ขอทำใบขับขี่ อบรมใบขับขี่มีความประสงค์ และความจำเป็นในการขับขี่รถ เพื่อใช้ในการเดินทางหรือการทำงาน นี้คือคุณสมบัติผู้ที่ต้องมีในการทำใบขับขี่
ใบขับขี่รถยนต์
- ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนถึงขั้นที่ไม่สามารถขับรถได้
- ไม่มีโรคประจำตัวที่เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์เห็นว่าอาจเป็นอันตรายในขณะขับรถ
- ไม่เป็นบุคคลที่มีปัญหาด้านจิตใจหรือจิตฟั่นเฟือน
- ไม่เป็นบุคคลที่ถูกยึดหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
ใบขับขี่รถจักรยานยนต์
- รถจักรยานยนต์ต้องมีขนาดความจุกระบอกสูบรวมกันไม่เกิน 110 ซีซี
- อายุของผู้ขับขี่ต้องไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์
- ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการทางร่างกายจนไม่สามารถขับขี่รถจักรยานยนต์ได้
- ไม่มีโรคเรื้อรังที่อาจเป็นอันตรายขณะขับขี่ตามคำแนะนำของผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์
- ไม่เป็นบุคคลที่มีปัญหาด้านจิตใจหรือจิตฟั่นเฟือน
- ไม่อยู่ในสถานะที่ถูกยึดหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
เอกสารที่ต้องใช้อบรมใบขับขี่ และต่อใบขับขี่
หลังจากเสร็จสิ้นการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์และจองคิวต่อใบขับขี่ต้องจองคิวไหม เมื่อต้องการต่ออายุใบขับขี่ คุณต้องจัดเตรียมเอกสารต่อไปนี้
- ใบขับขี่เดิม
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หลักฐานการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ 2567 ภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
- ใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน
ค่าธรรมเนียมการทำใบขับขี่
อัตราค่าธรรมเนียมในการทำใบขับขี่ใหม่ รวมถึงต่อใบขับขี่หมดอายุแล้ว โดยมีค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่ตามนี้
ค่าธรรมเนียมใบขับขี่รถยนต์
- ค่าคำขอ 5 บาท
- รถยนต์ส่วนบุคคล 500 บาท
ค่าธรรมเนียมใบขับขี่รถจักรยานยนต์
- ค่าคำขอ 5 บาท
- ค่าใบอนุญาตจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 250 บาท
ใบขับขี่หมดอายุต้องอบรมไหม
สำหรับใครที่สงสัยว่าต่อใบขับขี่หมดอายุกี่ดือนกี่ปีถึงจะต้องอบรมใบขับขี่ใหม่ เราได้สรุปมาให้แล้วดังนี้
ใบขับขี่หมดอายุไปแล้วเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี
หากใบขับขี่หมดอายุไปแล้วเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่ต้องทำการสอบข้อเขียนใหม่ โดยในการสอบข้อเขียนจะประกอบด้วย 50 ข้อ และผู้ขับขี่ต้องทำคะแนนให้ได้มากกว่า 90% หรือตอบถูกอย่างน้อย 45 ข้อจากทั้งหมด 50 ข้อเพื่อผ่านการสอบได้
ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี
หากใบขับขี่หมดอายุและผ่านไปเกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้องทดสอบเหมือนกับผู้ที่สอบใบขับขี่ใหม่ครั้งแรก โดยจะต้องสอบข้อเขียน ทดสอบปฏิบัติขับรถใหม่ และต้องมีใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน
สรุป
การอบรมใบขับขี่เป็นการฝึกฝนทักษะและความรู้ที่จำเป็นในการขับขี่รถอย่างปลอดภัย ผ่านการเรียนรู้เกี่ยวกับกฎจราจร การระบุสัญญาณ และเทคนิคการขับขี่ที่ปลอดภัย การอบรมยังช่วยเสริมสร้างความเชี่ยวชาญในการเข้าถนน, การจอดรถ, และมาตรฐานการขับขี่ที่ดีเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดอันตรายในการใช้ถนน ผ่านการอบรมใบขับขี่ ผู้เรียนจะได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นเพื่อเป็นคนขับรถที่มีความรับผิดชอบและปลอดภัยในการเดินทาง