กู้เงินซื้อบ้านหลังแรกฉบับมนุษย์เงินเดือน

บ้านเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่เนื่องด้วยเป็นทรัพย์สินราคาสูง บ้านจึงกลายเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับคนสร้างเนื้อสร้างตัวที่พยายามเก็บหอมรอบริบเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของชีวิตให้ดีขึ้น การขอสินเชื่อกู้บ้านกับธนาคารจึงกลายมาเป็นตัวช่วยหนึ่งของคนอยากมีบ้าน

แต่เพิ่งเริ่มทำงานมีเงินเดือนเท่านี้จะยื่นขอสินเชื่อกู้บ้านได้เท่าไร จะมีโอกาสได้หลังที่มองไว้ไหม เพื่อนแท้เงินด่วนมีคำตอบมาให้ในบทความนี้ มาคำนวณวงเงินสูงสุดและความสามารถในการผ่อนของผู้กู้ผ่านสูตรสำเร็จ และอ่านคำแนะนำในการเลือกบ้านดีถูกใจที่ผู้กู้ควรรู้

เงินเดือนเท่านี้กู้เงินซื้อบ้านได้เท่าไร

ธนาคารอนุมัติวงเงินกู้บ้านสูงสุดโดยใช้เงินเดือนของผู้กู้เป็น 1 ในเกณฑ์พิจารณา ซึ่งสามารถคิดเป็นก้อนใหญ่ได้จากสูตร

กู้บ้าน

รายได้ต่อเดือน*60 = ขั้นต่ำวงเงินกู้

ถ้าผู้กู้มีรายได้ 25,000 บาท วงเงินกู้ที่ธนาคารอนุมัติให้จะมีค่าเท่ากับ 25,000*60 = 1.5 ล้านบาท แต่ผู้กู้จะไม่ได้วงเงินนี้ทั้งหมด เพราะธนาคารจะคิด DSR (Debt Service Ratio) ซึ่งหมายถึงภาระหนี้ต่อรายได้ เพื่อพิจารณาความสามารถในการผ่อนบ้านประกอบกับการอนุมัติวงเงิน โดยทั่วไปแล้ว ผู้กู้บ้านควรมีภาระหนี้อยู่ที่ 30% หรือสูงสุด 40% ของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน โดยคิดได้จาก

รายได้ต่อเดือน*( 30% หรือ 40% ) = ความสามารถในการผ่อนบ้าน

ฉะนั้นแล้ว ผู้กู้บ้านที่มีรายได้ 25,000 ต่อเดือน จะมีความสามารถในการผ่อนบ้านคิดได้ตามนี้

25,000*(30% หรือ 40%) = 7,500 หรือ 10,000 บาท

ถ้าผู้กู้มีภาระผ่อนอย่างอื่นอยู่แล้ว เช่น บัตรเครดิตและรถเดือนละ 7,000 บาท จะมีความสามารถผ่อนบ้านอยู่เพียง 500 ถึง 3,000 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำเกินไปซึ่งอาจยากเกินกว่าที่ธนาคารจะอนุมัติให้ จึงแนะนำให้ผู้กู้ใช้เวลาในการเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อก่อน หรือปรึกษากับธนาคารที่ต้องการกู้เพื่อขอคำแนะนำประกอบกับการยื่นสินเชื่อ

เลือกบ้านอย่างไรให้เหมาะสม

เลือกบ้านอย่างไรให้สบายทั้งคนอยู่อาศัยและกระเป๋าตัง เพื่อนแท้แนะนำปัจจัยเบื้องต้นที่ผู้กู้ต้องพิจารณาก่อนซื้อบ้านสักหลัง ให้การลงทุนครั้งนี้คุ้มค่าที่สุด

ศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขบ้านให้ละเอียด

เริ่มจากเลือกบ้านจากโครงการที่น่าสนใจ น่าเชื่อถือ โดยการหาข้อมูลจากหลาย ๆ ที่ทั้งจากเจ้าของโครงการและรีวิวของลูกค้าจริงเพื่อรับรู้ถึงข้อดีข้อเสีย บริการหลังการขาย และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าผู้กู้ตัดสินใจกู้บ้านจากโครงการนั้น รวมถึงควรดูเงื่อนไข ข้อเสนอต่าง ๆ ที่โครงการจัดโปรโมชั่น เพื่อที่ผู้กู้จะได้ไม่พลาดโอกาสรับสิทธิพิเศษที่ควรจะได้

ทำเลที่ตั้งและขนาดใช้สอย

การพิจารณาถึงทำเลที่ตั้งและขนาดใช้สอยของบ้านจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในทำเลที่ตั้ง ควรลองเดินทางไปกลับในช่วงเวลา Rush Hour ทั้งเช้าและเย็นระหว่างบ้านในโครงการและสถานที่ทำงานของผู้กู้ดูว่ามีข้อจำกัดมากน้อยแค่ไหน ไกลไป ใกล้ไป หรือรถติดหรือไม่ ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยให้ลองนึกถึงว่าขนาดครอบครัวของผู้กู้มีแนวโน้มจะขยายขึ้นหรือไม่ หรือผู้กู้ใช้เวลาอยู่บ้านต่อวันนานเท่าไรถึงจะอยู่ในพื้นที่เท่านั้นได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดหรือคับแคบ

ราคาบ้าน

รายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนของผู้กู้มีส่วนอย่างมากในการขออนุมัติเงินกู้บ้าน หากผู้กู้มีรายได้น้อยอาจต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมายเป็นบ้านในโครงการอื่น หรือบ้านมือสองอย่างในทรัพย์สินรอการขาย เพื่อคุมงบประมาณไม่ให้บานปลายในขณะที่ผู้กู้ยังมีตัวเลือก

เกณฑ์ที่ธนาคารใช้พิจารณาผู้กู้ซื้อบ้าน

เพื่อนแท้ชวนทำความเข้าใจกับเกณฑ์ประกอบการพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้บ้านของธนาคาร ว่าผู้กู้ควรเตรียมตัวแบบไหนถึงจะมีโอกาสในการยื่นสินเชื่อกู้บ้านผ่าน

คุณสมบัติผู้กู้

โดยทั่วไป กู้บ้านกับธนาคารจะกำหนดคุณสมบัติผู้กู้ในเบื้องต้นไว้ว่าให้ผู้กู้มีรายได้ประจำที่แน่นอน สามารถจ่ายหนี้เงินกู้ได้โดยไม่มีปัญหา และเป็นผู้บรรลุนิติภาวะโดยการสมรสหรือมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป รวมถึงไม่มีประวัติเสียหายด้านการเงิน ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัว

ภาระหนี้สิน

ธนาคารจะตรวจสอบภาระหนี้สินและเครดิตบูโรของผู้กู้บ้านเพื่อดูความสามารถในการชำระหนี้หลังหักภาระค่าใช้จ่ายอย่างอื่นแล้ว เช่น หนี้รถหรือบัตรเครดิต เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจว่าผู้กู้จะสามารถชำระหนี้ได้ ซึ่งผู้กู้สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองผ่านการสำรวจหนี้ต่าง ๆ จากสัญญา บิล หรือหลักฐานการกู้เงินที่ผ่านมา

ประวัติการเงิน

การกู้บ้านเป็นการยื่นขอสินเชื่อวงเงินสูง และผู้กู้มีหน้าที่ที่ต้องผ่อนชำระในระยะยาว ธนาคารจึงต้องเซฟตัวเองด้วยการตรวจสอบประวัติการเงินว่าผู้กู้เคยกู้สินเชื่ออะไรมาบ้าง จ่ายหนี้ตรงเวลาไหม หรือเคยผิดชำระหนี้ของที่ไหนหรือไม่ ผู้กู้จึงควรปิดหนี้ที่มีอยู่ก่อนหน้าให้จบไปอย่าง ๆ เพื่อสร้างเครดิตทางการเงินของตัวเองให้ดีก่อนขอสินเชื่อ

เพิ่มความสามารถในการกู้ด้วยวิธีต่อไปนี้

ไม่ควรรีบร้อนเพราะซื้อทรัพย์สินราคาสูงอย่างบ้านทั้งทีผู้กู้อาจต้องผ่อนยาวนานถึง 30 ปี ก่อนกู้บ้านจึงควรหาลู่ทางเพื่อเพิ่มโอกาสในการกู้ให้ผ่านด้วยการสร้างความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งจะเป็นการเตรียมตัวให้ผู้กู้พร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายระยะยาวในอนาคต

เพิ่มรายรับต่อเดือน

ถ้ารายได้ตอนนี้ของผู้กู้ยังไม่เพียงพอ อาจต้องพับโครงการซื้อบ้านไปอีกสักพัก ประมาณ 3 – 4 ปี หรือจนกว่าจะตั้งตัวได้ โดยควรหารายได้เสริมอย่างอาชีพเสริมก่อนหรือพัฒนา Skill แล้วใช้ใบ Certificate หางานใหม่ที่พร้อมให้ค่าตอบแทนที่สูงกว่า และต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับรายการเดินบัญชีธนาคารเพื่อให้ธนาคารเห็นสถานะการเงินของผู้กู้อย่างต่อเนื่อง เป็นการเพิ่มโอกาสการยื่นกู้บ้านกับธนาคารให้ผ่าน

หาผู้กู้ร่วม

การกู้ร่วมเป็นการเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ ทำให้ผู้กู้มีโอกาสที่จะขอกู้บ้านผ่านมากขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฐานรายได้ของผู้กู้ร่วมด้วย โดยทั่วไปแล้วสามารถกู้ร่วมด้วยกันได้ไม่เกิน 3 คน ผู้กู้ต้องมีสายเลือดหรือนามสกุลเดียวกัน และมีอายุรวมกับระยะเวลาที่ให้กู้ไม่เกินตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด

เอกสารประกอบการกู้บ้าน

จะขอกู้บ้านกับธนาคารไหนก็ควรตรวจสอบกับธนาคารด้วยว่าผู้กู้ต้องใช้เอกสารอะไรประกอบการกู้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเดินทางไปกลับ ซึ่งอาจทำให้ธนาคารอนุมัติเงินกู้ล่าช้าหรือปฏิเสธการขอสินเชื่อ เพราะความไม่พร้อมในเอกสารและการเตรียมตัวของผู้กู้ โดยเอกสารที่ผู้กู้ควรเตรียมในทั่วไป มีดังนี้

  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน
  3. สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
  4. สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย, สำเนาโฉนดที่ดิน, เอกสารสิทธิ์ห้องชุด, หรือสำเนาหนังสือสัญญาจำนอง ที่ใช้เป็นหลักประกัน
  5. สำเนาใบเสร็จชำระเงินของเดือนล่าสุด หรือ Bank Statement 
  6. สำเนาสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างและแบบแปลน
  7. ใบอนุญาตปลูกสร้างอาคาร

ดอกเบี้ยเงินกู้และการรีไฟแนนซ์

โดยทั่วไป การกู้บ้านคิดดอกเบี้ยระยะยาวซึ่งประกอบไปด้วย การคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ (Fixed Rate) ในช่วงปีแรกๆ ของการผ่อน แล้วคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate) เช่น MRR ตามที่ระบุไว้ในสัญญาในปีหลัง ๆ ผู้กู้จึงควรเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายธนาคารว่าที่ไหนมีอัตราที่ผู้กู้รับได้ โดยอาจเลือกจากที่ที่คิด MRR ในเรทน้อย ๆ

ถ้าผู้กู้มีรายได้ก้อนใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างเช่นโบนัสประจำปี ก็ควรนำเงินนั้นมาโปะค่าบ้านด้วย เพราะกู้บ้านก็คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก เมื่อเงินต้นลดการคิดดอกเบี้ยก็จะลดลงด้วย อีกทางหนึ่งที่ผู้กู้จะสามารถผ่อนบ้านได้สบายมากยิ่งขึ้นคือการรีไฟแนนซ์กับธนาคารที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าธนาคารเดิม เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้กู้ในภายหลัง

สรุป - กู้เงินซื้อบ้านหลังแรก

ทั้งหมดนี้ก็เป็นการเตรียมตัวเพื่อวางแผนยื่นขอกู้บ้านในฝันกับธนาคาร เพื่อนแท้หวังว่าผู้กู้จะสามารถนำเอาไปปรับใช้ได้ เมื่อได้รับไปแล้วก็ควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และรีบโปะหนี้ให้เร็วที่สุดหากมีรายได้เพิ่มขึ้นหรือรีไฟแนนซ์กับธนาคารอื่นเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว

หากยังขอสินเชื่อไม่ผ่านสักที ก็ไม่ต้องรีบร้อน ใช้เวลาเก็บเงินหารายได้เพิ่มเติม และทำประวัติการเงินให้ดีสักสองสามปีก่อนกู้ก็ยังไม่สายแล้วค่อยกลับมาขอสินเชื่อใหม่ โดยระหว่างนั้นผู้กู้ก็ยังสามารถมองหาสินเชื่อจากที่อื่น ๆ เพื่อขยายตัวเลือกได้ อย่างสินเชื่อโฉนดที่ดินเพื่อนแท้สำหรับคนที่มีที่ดินอยู่แล้วและต้องการสร้างบ้าน ปรึกษาและขอสินเชื่อกับเพื่อนแท้ได้แล้ววันนี้ที่เพื่อนแท้ เงินด่วนทุกสาขาใกล้บ้าน

เพื่อนแท้ เงินด่วน

บทความยอดนิยม