บทความนี้เราจะมาดูเรื่องของการรีไฟแนนซ์ ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร ทำไมการรีไฟแนนซ์ถึงช่วยลดภาระหนี้สินที่ยังคงค้างอยู่ได้ หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่า “ลองรีไฟแนนซ์ดูสิ” อาจช่วยให้ปิดหนี้ได้เร็วขึ้นเยอะเลยนะ ในยามที่ภาระค่าใช้จ่ายเยอะ หมุนเงินไม่ทัน จ่ายหนี้ไม่ไหว ดอกเบี้ยบาน การรีไฟแนนซ์เป็นอีกทางเลือกในการช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ เราจะมาให้ข้อมูลการรีไฟแนนซ์ต่างๆ เพื่อการตัดสินใจในการขอสินเชื่อ
รีไฟแนนซ์ คืออะไร
รีไฟแนนซ์ (Refinance) คือ การกู้เงินจากสภาบันการเงินใหม่เพื่อปลดภาระหนี้เดิมที่ยังค้างอยู่ เหตุผลหลักๆส่วนใหญ่แล้วเพื่อการลดอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้ให้ต่ำลง และลดภาระค่างวดที่ต้องชำระต่อเดือน
รีไฟแนนซ์ สำคัญอย่างไร
การรีไฟแนนซ์มีส่วนสำคัญช่วยให้ลดอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้ได้ มีส่วนช่วยเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือนให้กับผู้กู้เงินได้ การรีไฟแนนซ์ยังทำให้เราจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้นอีก ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนไว้ใช้ และช่วยให้คุณประหยัดเงินที่ต้องจ่ายหนี้ได้มากขึ้นอีกด้วย
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
การโอนยอดหนี้ไปยังบัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า
- คุณมีบัตรเครดิต A ที่มียอดหนี้อยู่ 100,000 บาท และอัตราดอกเบี้ย 16% ต่อปี
- คุณพบว่ามีบัตรเครดิต B ที่มีโปรโมชั่นโอนยอดหนี้ที่อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน
- คุณตัดสินใจโอนยอดหนี้ 100,000 บาทจากบัตรเครดิต A ไปยังบัตรเครดิต B
เพื่อให้คุณจ่ายหนี้บัตรเครดิตในอัตราดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายให้ต่ำลงกว่ามาก
รีไฟแนนซ์รถ
การรีไฟแนนซ์รถ หมายถึง การขอสินเชื่อใหม่เพื่อชำระหนี้สินเชื่อรถยนต์เดิมที่ยังค้างอยู่ โดยอาจจะเพื่อเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง เพื่อลดค่างวดรายเดือน รีไฟแนนซ์รถเพื่อนำเงินสดออกมาใช้ เราขอยกตัวอย่างการรีไฟแนนซ์รถว่าทำได้ยังไงบ้างดังนี้้
การรีไฟแนนซ์รถเพื่อลดอัตราดอกเบี้ย
- คุณมีสินเชื่อรถยนต์เดิมอยู่ที่อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี โดยเหลือยอดหนี้อยู่ 300,000 บาท และต้องผ่อนชำระต่อไปอีก 3 ปี
- คุณพบว่ามีสถาบันการเงินอื่นที่เสนออัตราดอกเบี้ยเพียง 4% ต่อปีสำหรับการรีไฟแนนซ์
- คุณตัดสินใจรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินใหม่นี้ ทำให้ยอดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายลดลง ส่งผลให้ค่างวดรายเดือนที่ต้องจ่ายลดลงอีกด้วย
การรีไฟแนนซ์เพื่อลดค่างวดรายเดือน
- คุณมีสินเชื่อรถยนต์เดิมที่ต้องผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท โดยเหลือระยะเวลาผ่อนชำระอีก 2 ปี
- คุณกำลังประสบปัญหาทางการเงินและต้องการที่จะลดภาระการจ่ายค่างวดรายเดือนให้น้อยลง
- คุณตัดสินใจที่จะรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินใหม่ทขยายระยะเวลาผ่อนชำระออกไปอีก 4 ปี โดยมีค่างวดรายเดือนใหม่ที่ต้องชำระเหลือเพียง 6,000 บาท
การรีไฟแนนซ์ช่วยให้คุณสามารถจัดการภาระการเงินได้ดีขึ้น แม้จะต้องชำระหนี้นานขึ้นก็ตาม
การรีไฟแนนซ์รถเพื่อนำเงินสดออกมาใช้
- คุณมีรถยนต์ที่ผ่อนชำระเหลืออีก 100,000 บาท และมูลค่ารถยนต์ในตลาดปัจจุบันอยู่ที่ 500,000 บาท
- คุณต้องการเงินสดเพื่อนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนในกรณีฉุกเฉิน หรือใช้เป็นเงินทุนต่างๆ
- คุณตัดสินใจรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินใหม่ที่อนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ที่ 400,000 บาท
- คุณใช้เงินส่วนนี้ในการชำระหนี้สินเชื่อรถยนต์เดิมที่เหลือ 100,000 บาท และได้รับเงินสดส่วนที่เหลือ 300,000 บาทเพื่อนำไปใช้จ่าย
การรีไฟแนนซ์รถเป็นทางเลือกในการจัดการภาระหนี้สินเชื่อรถยนต์ โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ขอสินเชื่อว่าจะเน้นที่การลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน หรือนำเงินสดออกมาใช้จ่ายหมุนเวียน
รีไฟแนนซ์บ้าน
การรีไฟแนนซ์บ้าน หมายถึง การขอสินเชื่อบ้านใหม่เพื่อชำระหนี้สินเชื่อบ้านเดิมที่ยังค้างอยู่ โดยเป้าหมายหลักคือการลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง ปรับลดค่างวดรายเดือน หรือเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ระยะเวลาในการผ่อนบ้านลดน้อยลงไปอีกด้วย
ส่วนสำคัญของการรีไฟแนนซ์บ้าน ในสัญญาส่วนใหญ่จะระบุให้สามารถรีไฟแนนซ์ได้หลังจากผ่านไป 3 ปี (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสัญญาเงินกู้) หากทำการรีไฟแนนซ์ก่อนกำหนด จะต้องชำระค่าปรับ 2-3% ของยอดหนี้คงเหลือ เราขอตัวอย่างการรีไฟแนนซ์บ้านดังนี้
การรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดอัตราดอกเบี้ย
- คุณมีสินเชื่อบ้านเดิมที่อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี โดยเหลือยอดหนี้อยู่ 2,000,000 บาท และต้องผ่อนชำระต่อไปอีก 15 ปี
- คุณพบว่าสถาบันการเงินอื่นเสนออัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปีสำหรับการรีไฟแนนซ์
- คุณตัดสินใจรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินใหม่ ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายลดลงและสามารถลดภาระการผ่อนชำระรายเดือนได้
ข้อดีและข้อเสียของการรีไฟแนนซ์
ในการขอสินเชื่อต่างๆต้องพิจารณาข้อดีและข้อเสียก่อนตัดสินใจที่จะรีไฟแนนซ์ โดยข้อดีและข้อเสียของการรีไฟแนนซ์มีดังนี้
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์
1. ช่วยลดอัตราดอกเบี้ย
การรีไฟแนนซ์สามารถช่วยลดอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระ ทำให้ยอดการชำระดอกเบี้ยทั้งหมดลดลง และลดภาระการผ่อนชำระรายเดือนลง
2. ช่วยลดค่างวดรายเดือน
การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระออกไปสามารถช่วยลดค่างวดรายเดือน ทำให้การจัดการการเงินสะดวกขึ้น
3. ช่วยรวมยอดหนี้
การรีไฟแนนซ์สามารถใช้ในการรวมยอดหนี้หลายรายการเข้าด้วยกัน ทำให้สะดวกให้เราการจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น
4. ปรับปรุงเงื่อนไขการกู้
การรีไฟแนนซ์อาจช่วยให้ได้เงื่อนไขสินเชื่อที่ดีกว่า เช่น การเปลี่ยนจากอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่
ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์
1. อาจมีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย
การรีไฟแนนซ์อาจมีค่าธรรมเนียมการดำเนินการ ค่าปรับ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องชำระ
2. ระยะเวลาผ่อนชำระต่อเดือนนานขึ้น
การรีไฟแนนซ์ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระออกไป อาจจะทำให้ต้องชำระดอกเบี้ยรวมมากขึ้นในระยะยาว
3. ผลกระทบต่อคะแนนเครดิต
การรีไฟแนนซ์อาจมีผลกระทบต่อคะแนนเครดิต หากไม่สามารถชำระหนี้ตามที่ตกลงไว้ อาจทำให้สถาบันการเงินเห็นว่าความสามารถในการชำระหนี้ของเราลดลง
คำถามที่พบบ่อย
การรีไฟแนนซ์คืออะไร?
การรีไฟแนนซ์ คือ การกู้เงินใหม่เพื่อชำระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ ช่วยในการลดภาระหนี้สินได้
การรีไฟแนนซ์มีประโยชน์อย่างไร?
ช่วยลดดอกเบี้ยและภาระการผ่อนชำระ แถมยังช่วยหย่นระยะเวลาในการปิดหนี้ให้ไวขึ้นด้วย
ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างในการรีไฟแนนซ์?
บัตรประชาชน สลิปเงินเดือน และสำเนาเอกสารการกู้เงินต่างๆ
การรีไฟแนนซ์มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
ค่าธรรมเนียม และค่าบริการต่างๆ
การรีไฟแนนซ์มีผลต่อเครดิตอย่างไร?
มีผลต่อเครดิตในระยะสั้น แต่ในระยะยาวช่วยปรับปรุงเครดิตได้
บทสรุป
การรีไฟแนนซ์ (Refinance) คือ การทำสินเชื่อใหม่ของสินเชื่อหรือเงินกู้ที่มีอยู่เดิม เพื่อปรับปรุงสินเชื่อให้ได้เงื่อนไขให้ดียิ่งขึ้น เช่น ดอกเบี้ยที่ต่ำลง หรือระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวขึ้น เพื่อให้สามารถลดภาระการจ่ายเงินกู้ลงได้ การรีไฟแนนซ์สามารถทำได้ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล และอื่นๆ
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์คือสามารถลดภาระดอกเบี้ยและลดค่างวดรายเดือนได้ แต่ควรระมัดระวังค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าใช้จ่ายในการทำสัญญา และค่าธรรมเนียมการปิดบัญชีเดิม เป็นต้น