คาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้นเป็นบทสวดที่มีความนิยมอย่างมากในหมู่คนไทย หลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากวัดจันทาราม (ท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี คาถานี้เชื่อกันว่าจะเสริมสิริมงคลทางการเงิน ดึงดูดความมั่งคั่ง และปรับปรุงกิจการค้าขายได้เป็นอย่างดี
ประวัติหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) ป.ธ.4 หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ที่มีชื่อเสียงในด้านการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานและวิชามโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ) หลังการมรณภาพ สังขารร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อยอย่างศพของคนทั่วไป และได้มีการเก็บรักษาไว้ที่วัดท่าซุงจนถึงปัจจุบัน
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าซุง ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2511 ขณะท่านมีอายุ 52 ปี ท่านได้ทำการบูรณะ สร้างและขยายวัดจากเดิมที่มีพื้นที่เพียง 6 ไร่ 2 งาน 07 2/10 ตารางวา จนกระทั่งเป็นวัดที่มีบริเวณพื้นที่ประมาณ 289 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา ภายในวัดมีอาคารและถาวรวัตถุต่าง ๆ จำนวน 144 รายการ ซึ่งสิ้นค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 611,949,193 บาท
สิ่งก่อสร้างที่ท่านได้ทำในวัดและนอกวัด เช่น หอสวดมนต์, พระพุทธรูป, อาคารปฏิบัติกรรมฐาน, ศาลาการเปรียญ, วิหาร 100 เมตร, โบสถ์ใหม่, บูรณะโบสถ์เก่า, ศาลา 2 ไร่, 3 ไร่, 4 ไร่ และ 12 ไร่, หอไตร, โรงพยาบาลศูนย์แม่และเด็ก ชนบทที่ 61, พระจุฬามณี, มณฑปท้าวมหาราชทั้ง 4, พระบรมราชานุสาวรีย์ 6 พระองค์, พระชำระหนี้สงฆ์, โรงไฟฟ้า, โรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา, ศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในแดนทุรกันดารตามพระราชประสงค์ เป็นต้น นอกจากนี้ท่านยังได้ช่วยการก่อสร้างที่วัดอื่น ๆ ในประเทศไทยอีกมากมาย
ทำไมถึงเรียกว่าหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
ฉายา “ฤาษีลิงดำ” มาจากหนังสือที่ท่านเขียนถึงประวัติหลวงพ่อปาน โสนนฺโท พระอาจารย์ของท่านมักเรียกท่านว่าเป็นลิง เพราะความซุกซนตามรูปร่างลักษณะ เช่น ผิวขาวเรียกลิงขาว ผิวดำเรียกลิงดำ ตัวเล็กเรียกลิงเล็ก ตอนที่ท่านเขียนหนังสือประวัติหลวงพ่อปาน ท่านไม่รู้จะใช้นามปากกาอะไร เพราะหากใช้ชื่อพระก็เกรงว่าคนจะหาว่าท่านอวดอุตริมนุสธรรม ท่านจึงนึกได้ว่าหลวงพ่อปานมักเรียกท่านว่า “ลิงดำ” ท่านก็เลยเอาชื่อที่หลวงพ่อปานเรียกมาเป็นนามปากกา และเติมคำว่า “ฤาษี” เข้าไปข้างหน้า เพื่อให้สื่อถึงการเป็นผู้บำเพ็ญ จึงรวมเป็นนามปากกาว่า “ฤาษีลิงดำ”
ต่อมาคนอ่านหนังสือประวัติหลวงพ่อปานกันมาก ก็ตามหากันว่าฤาษีลิงดำเป็นใคร เมื่อเจอตัวจริงก็ไม่มีใครเรียกท่านว่าพระมหาวีระเลย เรียกแต่ท่านฤาษีลิงดำ ตอนแรกท่านก็บอกว่าท่านชื่อมหาวีระ แต่ส่วนมากคนชอบเรียกท่านว่าฤาษีลิงดำมากกว่า ท่านก็เลยบอก “เออ ฤาษีลิงดำก็ฤาษีลิงดำ” และท่านและผู้คนก็พร้อมใจกันใช้ชื่อนี้เรื่อยมา
วิธีการสวดคาถาเงินล้าน
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรสวดคาถาเงินล้านอย่างเป็นประจำ โดยให้สวด 9 จบตามคำแนะนำของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วิธีการสวดเริ่มต้นสวดตามบทคาถาดังนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม
พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม มิเตภาหุหะติ
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ
วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา
วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย
ทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
สัมปะติจฉามิ เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
สวดบูชา 9 จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด
ประสบการณ์จากการสวดคาถาเงินล้าน
หลายคนที่ได้สวดคาถาเงินล้านนี้ได้แบ่งปันประสบการณ์ว่าพวกเขาได้รับผลดีทั้งในด้านการเงินและจิตใจ บางคนได้พบโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ บางคนได้รับโชคลาภที่ไม่คาดคิด และมีหลายคนที่รู้สึกว่าชีวิตของพวกเขามีความสงบสุขและมีความมั่นใจมากขึ้น
เคล็ดลับในการสวดคาถาให้ได้ผล
เพื่อให้การสวดคาถาเงินล้านมีผลที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามเคล็ดลับดังนี้:
- ความเชื่อและศรัทธา: ควรมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในพลังของคาถาและหลวงพ่อฤาษีลิงดำอย่างแท้จริง
- สมาธิและความสงบ: ก่อนการสวดควรทำสมาธิและทำจิตใจให้สงบ เพื่อให้จิตใจพร้อมรับพลังของคาถา
- ความสม่ำเสมอ: การสวดควรทำเป็นประจำและสม่ำเสมอ เพื่อให้พลังของคาถามีความต่อเนื่อง
- การทำบุญและปฏิบัติธรรม: การทำบุญและปฏิบัติธรรมจะช่วยเสริมสร้างบุญบารมีและทำให้คาถามีผลดียิ่งขึ้น
ผลกระทบทางจิตวิทยาจากการสวดคาถา
การสวดคาถาเงินล้าน หลวงพ่อฤาษีลิงดำไม่เพียงแต่มีผลในด้านการเงินเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบทางจิตวิทยาอีกด้วย การสวดคาถาช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด และเพิ่มความมั่นใจในการดำเนินชีวิต
สรุป
โดยสรุป คาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นคาถาที่มีพลังและความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้รับการเชื่อถือและนิยมสวดกันอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้ที่ต้องการความมั่งคั่งและความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเงินหรือด้านจิตใจ การสวดคาถานี้ไม่เพียงแต่เป็นการเสริมสร้างโชคลาภและความมั่งคั่งเท่านั้น แต่ยังเป็นการฝึกฝนจิตใจและจิตวิญญาณให้มีความสงบและมีสมาธิมากขึ้น