สัญญายืมเงิน ถือเป็นเอกสารทางกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินในธุรกิจหรือการทำสัญญาแบบส่วนตัว การทำสัญญาให้ถูกต้องตามกฎหมายจะช่วยลดปัญหาและข้อขัดแย้งในอนาคตได้อย่างมาก บทความนี้จึงจะพาคุณไปรู้จักกับหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสัญญายืมเงิน พร้อมทั้งแนวทางการจัดทำที่ถูกต้อง
สัญญายืมเงินคืออะไร?
สัญญายืมเงิน เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ ที่ระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับจำนวนเงินที่กู้ อัตราดอกเบี้ย (ถ้ามี) ระยะเวลาในการชำระคืน และข้อกำหนดอื่น ๆ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามตามกฎหมายไทย สัญญายืมเงินยังถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้ในการดำเนินคดีได้หากเกิดกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข
องค์ประกอบสำคัญของสัญญายืมเงิน
- รายละเอียดของคู่สัญญา: ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ของทั้งผู้ให้กู้และผู้กู้
- จำนวนเงินที่กู้: ระบุจำนวนเงินที่ชัดเจน
- เงื่อนไขการคืนเงิน: วันครบกำหนด อัตราดอกเบี้ย (ถ้ามี) และวิธีการชำระคืน
- ลายเซ็นของทั้งสองฝ่าย: เพื่อแสดงการยินยอมตามเงื่อนไข
ความสำคัญของการทำสัญญายืมเงินแบบถูกกฎหมาย
การจัดทำ สัญญายืมเงิน แบบถูกต้องตามกฎหมายมีความสำคัญในหลายด้าน ทั้งด้านกฎหมายและความสัมพันธ์ส่วนตัว ระหว่างคู่สัญญา
- ลดความเสี่ยงทางกฎหมาย สัญญายืมเงินที่จัดทำอย่างถูกต้อง จะช่วยให้สามารถใช้เป็นหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม หากเกิดปัญหาการผิดนัดชำระ
- สร้างความชัดเจนในเงื่อนไขการยืมเงิน เอกสารสัญญาจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจและยอมรับเงื่อนไขตรงกัน เช่น อัตราดอกเบี้ย การชำระเงิน หรือบทลงโทษกรณีผิดสัญญา
- สร้างความน่าเชื่อถือ สำหรับผู้ให้กู้หรือผู้กู้ สัญญายืมเงินสามารถสร้างความมั่นใจให้กับทั้งสองฝ่ายว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้จะเป็นไปอย่างยุติธรรม
วิธีการจัดทำสัญญายืมเงิน
1. ขั้นตอนการเขียนสัญญายืมเงิน
- กำหนดรายละเอียดของคู่สัญญา ระบุชื่อผู้ให้กู้และผู้กู้ พร้อมข้อมูลติดต่อที่ชัดเจน
- ระบุจำนวนเงินและดอกเบี้ย (ถ้ามี) ควรระบุจำนวนเงินที่กู้ยืมชัดเจน และหากมีการคิดดอกเบี้ย จะต้องไม่เกินกฎหมายกำหนด
- กำหนดเงื่อนไขการชำระคืน ระบุวันที่ครบกำหนดชำระ และวิธีการชำระ เช่น เงินสด โอนเข้าบัญชี
- แนบลายเซ็นและพยาน ลายเซ็นของทั้งสองฝ่าย พร้อมลายเซ็นพยานอย่างน้อยหนึ่งคน
2. รูปแบบของสัญญายืมเงิน
สัญญายืมเงินสามารถจัดทำได้หลายรูปแบบ เช่น
- แบบลายลักษณ์อักษร: เป็นแบบที่ได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย
- แบบอิเล็กทรอนิกส์: ในยุคดิจิทัล การจัดทำสัญญายืมเงินผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับการยอมรับ
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการไม่ทำสัญญายืมเงิน
หากไม่มีการจัดทำ สัญญายืมเงิน หรือจัดทำไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจเกิดปัญหาหลายประการที่ส่งผลต่อทั้งผู้ให้กู้และผู้กู้ เช่น
- การไม่สามารถเรียกเงินคืนได้ หากไม่มีหลักฐานยืนยันการยืมเงิน ผู้ให้กู้อาจไม่สามารถเรียกเงินคืนจากผู้กู้ได้
- การเกิดข้อพิพาทในเงื่อนไข การไม่มีเอกสารสัญญาที่ชัดเจน อาจทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องอัตราดอกเบี้ยหรือเงื่อนไขการชำระคืน
- การเสียเปรียบในกระบวนการทางกฎหมาย หากสัญญาไม่มีความถูกต้องตามกฎหมาย อาจทำให้การดำเนินคดีในชั้นศาลมีความยุ่งยาก
หลักฐานการกู้ยืมเงิน
การจัดทำ หลักฐานการกู้ยืมเงิน แบ่งออกเป็น 2 กรณี ตามจำนวนเงินที่เกี่ยวข้อง ดังนี้:
- กรณีจำนวนเงินกู้ยืม ไม่เกิน 2,000 บาท ตามกฎหมายไทย หากจำนวนเงินที่กู้ยืมไม่เกิน 2,000 บาท ไม่จำเป็นต้องจัดทำหลักฐานการกู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษร แม้จะเป็นการตกลงกันด้วยวาจา แต่หากมีการผิดสัญญาหรือไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ก็สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย
กรณีจำนวนเงินกู้ยืม เกิน 2,000 บาท
สำหรับกรณีที่จำนวนเงินกู้ยืมเกิน 2,000 บาท กฎหมายกำหนดให้ต้องมี หลักฐานแห่งการกู้ยืมเงิน หากไม่มีหลักฐานดังกล่าวจะไม่สามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันได้
หลักฐานการกู้ยืมเงินสามารถจัดทำได้ในรูปแบบใดก็ได้ เช่น สัญญาลายลักษณ์อักษร หรือเอกสารยืนยัน แต่ต้องมีข้อความที่ระบุอย่างชัดเจนว่า:
- มีการกู้ยืมเงินเป็นจำนวนเท่าใด
- ตกลงคืนเงินเมื่อใด
- และที่สำคัญ ต้องมี ลายมือชื่อของผู้กู้ยืม
องค์ประกอบสำคัญในเอกสารหลักฐานการกู้ยืมเงิน
เพื่อให้เอกสารมีความสมบูรณ์ตามกฎหมาย ควรประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้:
- วันที่ที่ทำสัญญากู้ยืมเงิน ระบุวันที่ที่มีการทำข้อตกลงชัดเจน
- ชื่อของคู่สัญญา ระบุชื่อทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้ พร้อมรายละเอียดที่สามารถระบุตัวตนได้
- จำนวนเงินที่กู้ยืม ระบุจำนวนเงินที่กู้ยืมอย่างชัดเจน
- กำหนดชำระคืนเงิน ระบุวันที่หรือระยะเวลาที่จะคืนเงิน (ถ้าตกลงกัน)
- อัตราดอกเบี้ย (ถ้ามี)
- หากมีการคิดดอกเบี้ย จะต้องไม่เกิน 15% ต่อปี ตามกฎหมายกำหนด
- หากไม่มีการระบุอัตราดอกเบี้ยไว้ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 กำหนดอัตราดอกเบี้ยเป็น 7.5% ต่อปี
- ลายมือชื่อของผู้กู้ยืม
- ผู้กู้ยืมต้องลงลายมือชื่อในเอกสาร
- กรณีใช้ลายพิมพ์นิ้วมือแทน จะต้องมี พยานรับรองลายนิ้วมืออย่างน้อย 2 คน
หลักจากทราบถึงหลักฐาน องค์ประกอบ และความเสี่ยงแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการคือ ท่านควรจะมีความรู้ด้านการตรวจสอบสัญญายืมเงินแบบถูกกฎหมายด้วย สนใจให้คลิ๊กอ่านบทความ 5 วิธีในการตรวจสอบสัญญายืมเงินแบบถูกกฎหมาย
สรุป
การทำ สัญญายืมเงิน แบบถูกต้องตามกฎหมายไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับทั้งผู้ให้กู้และผู้กู้ การจัดทำสัญญายืมเงินควรมีความชัดเจนในทุกเงื่อนไข และจัดทำในรูปแบบที่ได้รับการยอมรับทางกฎหมายเสมอ
หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการสินเชื่อที่มีความน่าเชื่อถือ บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน จำกัด เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยการให้บริการสินเชื่อที่รวดเร็วและยืดหยุ่น เราพร้อมช่วยคุณในทุกสถานการณ์การเงินที่ต้องการ