“บริษัท เพื่อนแท้ แคปปิตอล จำกัด และบริษัทย่อย” (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคลากร ผู้บริหาร พนักงาน นักศึกษาฝึกงาน อดีตพนักงาน สมาชิกในครอบครัว ผู้ค้ำประกันการปฏิบัติงานและบุคคลอ้างอิง (เรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) นี้ขึ้นมา เพื่อแจ้งให้บุคลากร ผู้บริหาร พนักงาน นักศึกษาฝึกงาน อดีตพนักงาน สมาชิกในครอบครัว ผู้ค้ำประกันการปฏิบัติงานและบุคคลอ้างอิงรับทราบ และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) และสิทธิตามกฎหมายของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัท
ในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และฐานทางกฎหมาย โดยบริษัทได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยใช้ฐานทางกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ | ฐานทางกฎหมาย |
(1) เพื่อการดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนตามสัญญาจ้างระหว่างพนักงานกับบริษัท รวมถึงสัญญาข้อตกลงอื่นอันเกี่ยวเนื่องกับการว่าจ้าง และการแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมสัญญาหรือข้อตกลงดังกล่าว |
|
(2) เพื่อการสื่อสารกับพนักงาน การประเมินผลการปฏิบัติงาน การฝึกอบรม/สัมมนา/ดูงาน การรับรองด้านความรู้ต่างๆ และการจัดกิจกรรมต่างๆ สำหรับพนักงาน |
|
(3) เพื่อดำเนินการบริหารจัดการด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ รวมถึงการจัดทำบัญชีเงินเดือน การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ การหักภาษี การประกันสังคม การอายัด และนำส่งเงินเดือน โบนัส ค่าตอบแทนต่างๆ ตามคำสั่ง/หมาย/หนังสือแจ้ง และการจัดทำประกันสุขภาพตามนโยบายของบริษัท |
|
(4) เพื่อดำเนินการ และบริหารงานด้านบุคลากร รวมถึงการบริหารจัดการด้านพนักงาน และการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานระหว่างบริษัทกับบริษัท เช่น การตรวจสอบเวลาเข้า – ออกงาน การบริหารจัดการวันลาพักร้อน ลากิจ หรือลาป่วย เป็นต้น |
|
(5) เพื่อการบริหารจัดการด้านสุขอนามัย และความปลอดภัยของพนักงาน เช่น การทำประกันสุขภาพ เป็นต้น |
|
(6) เพื่อการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ |
|
(7) เพื่อการโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใดๆ ตามสัญญาจ้างระหว่างพนักงานกับบริษัท เช่น การควบรวมกิจการ หรือการโอนสัญญาจ้าง ซึ่งได้กระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย |
|
(8) เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมาย และข้อเรียกร้องการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงรายงานต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร หรือเมื่อได้รับคำสั่ง/หมาย/หนังสือแจ้งให้ดำเนินการใดๆ ที่อาศัยอำนาจตามกฎหมายของหน่วยงานนั้น |
|
(9) เพื่อป้องกัน และตรวจสอบการดำเนินการในลักษณะที่เป็นการ ฉ้อฉล การฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย การกระทำผิดทางอาญา หรือการกระทำอื่นใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย |
|
(10) เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย |
|
(11) เพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ และการจัดการภายในองค์กร |
|
(12) เพื่อการสืบสวน สอบสวน หรือกระบวนการทางกฎหมาย |
|
(13) เพื่อเปิดเผยให้แก่ลูกค้า คู่ค้า หรือบุคคลอื่น อันเนื่องมาจากสิทธิ และหน้าที่ในการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างงาน |
|
(14) เพื่อดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ เกี่ยวกับการลาออก การเลิกจ้าง การจ่ายเงิน |
|
(15) เพื่อเปิดเผยให้แก่ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วงผู้ให้บริการ และผู้รับประกันภัย สำหรับการดำเนินงานใดๆ ของบริษัท |
|
(16) เพื่อเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานให้แก่ผู้ที่จะเป็นนายจ้างใหม่ของพนักงาน ในกรณีที่พนักงานระบุชื่อบริษัทเป็นบุคคลอ้างอิง ในฐานะนายจ้างเก่าหรือปัจจุบัน |
|
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือบางส่วน ตามความจำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ของบริษัท ดังนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทไม่มีความประสงค์เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว หากไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล เว้นแต่ ในกรณีที่ได้รับการยกเว้นตามกฎมายไม่ต้องขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว
แหล่งที่มาของข้อมูล
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ดังนี้
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น โดยมีการกำหนดระยะเวลาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
ทั้งนี้ หากมีการดำเนินการทางศาล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาใดๆ ในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ จากนั้นข้อมูลของท่านจะถูกลบหรือเก็บตามที่กฎหมายอนุญาต
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานภายในบริษัท และบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ภายใต้หลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลบุคคลส่วนบุคคลของท่านจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่สามดังกล่าวใช้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ของตนเอง บริษัทอนุญาตให้บุคคลที่สามใช้ข้อมูลเท่าที่จําเป็นอย่างเฉพาะเจาะจง และปฏิบัติตามแนวปฏิบัติของบริษัทเท่านั้น
บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือคลาวด์ (Cloud) ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูป และรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของของท่าน ทั้งนี้ บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และบริษัทจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล และ/หรือเอกสาร ผู้ให้บริการ Server/Cloud โดยมีวัตถุประสงค์ที่จำเป็นเพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลและ/หรือเอกสารแทนบริษัทไว้บน Server/Cloud ในต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการเพื่อทำให้มั่นใจว่า ประเทศของผู้รับข้อมูลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่น้อยกว่าประเทศไทย หรือในกรณีที่เป็นการส่งหรือโอนภายใต้ขอบเขตของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะพยายามส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ให้บริการหรือผู้รับข้อมูลของบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ด้วยวิธีการที่ปลอดภัย เพื่อรักษา ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
อย่างไรก็ตาม กรณีที่บริษัทมีเหตุจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ โดยบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด รวมถึงบริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของของท่าน มีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่บริษัท โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งสิทธิต่างๆ ของท่านมีรายละเอียด ดังนี้
บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้หรือต้องการขอใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อบริษัทผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบุคลากร ผู้บริหาร พนักงาน นักศึกษาฝึกงาน อดีตพนักงาน สมาชิกในครอบครัว ผู้ค้ำประกันการปฏิบัติงานและบุคคลอ้างอิงเป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับปัจจุบันไว้ที่สำนักงานใหญ่ และเว็บไซต์ของบริษัท https://www.puean.co.th
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 1 เมษายน 2567