แบบสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร

แบบสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร

    การเช่าที่ดินเพื่อการเกษตรเป็นเรื่องที่มีความสำคัญสำหรับเกษตรกรและเจ้าของที่ดินที่ต้องการให้ที่ดินของตนถูกใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า การทำสัญญาเช่าที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีรายละเอียดที่ครบถ้วน จะช่วยให้ทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่าได้รับประโยชน์สูงสุด ลดปัญหาข้อพิพาทในอนาคต และช่วยสร้างความมั่นใจในสิทธิและหน้าที่ของแต่ละฝ่าย บทความนี้จะพาท่านไปรู้จักกับรายละเอียดของ แบบสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร ตั้งแต่หลักการสำคัญของสัญญา ข้อกำหนดที่ควรมีในสัญญา ไปจนถึงตัวอย่างสัญญาที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง 

ความสำคัญของสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร

ความสำคัญของสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร

ทำไมต้องมีสัญญาเช่าที่ดิน?

    การเช่าที่ดินเป็นข้อตกลงที่สำคัญระหว่างเจ้าของที่ดินและผู้เช่า หากไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร อาจทำให้เกิดปัญหาด้านสิทธิการใช้ที่ดิน เช่น ผู้เช่าอาจถูกไล่ออกโดยไม่มีการแจ้งเตือน หรือเจ้าของที่ดินอาจเรียกค่าเช่าที่ไม่เป็นธรรม การมี สัญญาเช่าที่ดิน ที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ และทำให้การใช้ที่ดินเป็นไปอย่างราบรื่น 

ประโยชน์ของสัญญาเช่าที่ดิน

    • ป้องกันข้อพิพาท: ระบุสิทธิและหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจน 
    • สร้างความมั่นใจ: ให้ผู้เช่าสามารถวางแผนการเพาะปลูกและลงทุนระยะยาวได้ 
    • เป็นหลักฐานทางกฎหมาย: สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมาย หากเกิดข้อขัดแย้ง 
    • ปกป้องผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย: ช่วยให้เจ้าของที่ดินได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม และผู้เช่าได้รับสิทธิการใช้ที่ดินตามที่ตกลงกัน 
องค์ประกอบสำคัญของสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร

องค์ประกอบสำคัญของสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร

การจัดทำ สัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร ที่มีความสมบูรณ์ ควรมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้: 

1 ข้อมูลของคู่สัญญา 

ต้องระบุรายละเอียดของ ผู้ให้เช่า และ ผู้เช่า อย่างครบถ้วน เช่น 

    • ชื่อ-นามสกุล 
    • หมายเลขบัตรประชาชน 
    • ที่อยู่ปัจจุบัน 
    • หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 

2 รายละเอียดของที่ดินที่ให้เช่า 

    • ที่ตั้งของที่ดิน (ตำบล อำเภอ จังหวัด) 
    • ขนาดพื้นที่ที่ให้เช่า (ระบุเป็นไร่ งาน ตารางวา) 
    • เลขที่โฉนดหรือเอกสารสิทธิที่ดิน 

3 ระยะเวลาการเช่า 

    • กำหนดระยะเวลาการเช่า เช่น 1 ปี, 3 ปี หรือ 5 ปี 
    • ระบุวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของสัญญา 
    • ข้อกำหนดเกี่ยวกับการต่ออายุสัญญา 

4 ค่าตอบแทนการเช่า 

    • อัตราค่าเช่าต่อปี หรือ ต่อเดือน 
    • วิธีการชำระค่าเช่า (เป็นเงินสด, โอนเงินเข้าบัญชี) 
    • วันครบกำหนดชำระค่าเช่า 

5 ข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ที่ดิน 

    • ประเภทของพืชหรือกิจกรรมที่สามารถทำได้ในที่ดิน 
    • ข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้สารเคมีหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน 
    • กำหนดให้ต้องดูแลรักษาที่ดินให้อยู่ในสภาพดี 
ข้อควรระวังในการทำสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร

ข้อควรระวังในการทำสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร

3.1 การตรวจสอบสิทธิของเจ้าของที่ดิน 

ก่อนทำสัญญาเช่า ควรตรวจสอบว่าเจ้าของที่ดินมีสิทธิ์ในการให้เช่าจริงหรือไม่ โดยขอดูเอกสารสิทธิ์ เช่น โฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3  

3.2 ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเลิกสัญญา 

สัญญาควรระบุเงื่อนไขที่สามารถยกเลิกได้ เช่น 

    • ผู้เช่าไม่จ่ายค่าเช่าเกินกำหนด 
    • ผู้เช่าทำผิดเงื่อนไข เช่น ใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ 
    • กรณีที่เจ้าของที่ดินต้องการขายที่ดิน 

3.3 การจดทะเบียนสัญญาเช่า 

หากสัญญาเช่ามีระยะเวลาเกิน 3 ปี ควรนำไปจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน เพื่อให้มีผลบังคับทางกฎหมาย 

ตัวอย่างแบบสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร

ตัวอย่างแบบสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร

ตัวอย่างสัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร 

สัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร ระหว่าง นายสมชาย ใจดี (ผู้ให้เช่า) อยู่ที่ 123 หมู่ 4 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 

กับ นางสาวสมหวัง ขยันเพาะปลูก (ผู้เช่า) อยู่ที่ 456 หมู่ 7 ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ 

ข้อ 1: ผู้ให้เช่าตกลงให้ผู้เช่าเช่าที่ดินเนื้อที่ 5 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อใช้ในการเกษตรเท่านั้น 

ข้อ 2: ระยะเวลาเช่า 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 

ข้อ 3: ผู้เช่าต้องชำระค่าเช่าปีละ 10,000 บาท ภายในวันที่ 1 มกราคมของทุกปี 

ข้อ 4: ผู้เช่าต้องใช้ที่ดินเพื่อการเกษตร และดูแลรักษาที่ดินให้อยู่ในสภาพดี 

ข้อ 5: หากผู้เช่าผิดเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง ผู้ให้เช่ามีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาโดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 30 วัน 

 

ลงชื่อ _______________________ (ผู้ให้เช่า)     ลงชื่อ _______________________ (ผู้เช่า) 

 

วันที่ _______________________ 

สรุป

    สัญญาเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร เป็นเอกสารสำคัญที่ช่วยให้การเช่าที่ดินเป็นไปอย่างราบรื่น และลดปัญหาข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้น การทำสัญญาที่มีรายละเอียดครบถ้วน ช่วยให้ทั้งเจ้าของที่ดินและผู้เช่ามีความมั่นใจในสิทธิและหน้าที่ของตนเอง องค์ประกอบสำคัญของสัญญา ได้แก่ ข้อมูลคู่สัญญา รายละเอียดที่ดิน ระยะเวลาเช่า ค่าเช่า และเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ การตรวจสอบสิทธิของเจ้าของที่ดิน และการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้การเช่าที่ดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย 

เพื่อนแท้ เงินด่วน

บทความยอดนิยม